31 ปี ที่ผ่านมาในอุตสาหกรรม

วิสัยทัศน์
พันธกิจ
คุณค่าขององค์กร
F – การบริการและจัดหาสินค้าที่ดีและรวดเร็ว
A – ปลูกฝังการดำเนินธุรกิจต่อเนื่องสร้างความมั่นใจ ซื่อสัตย์
S – สร้างพันธมิตรเชิงกลยุทธ์และพลังร่วม
T – พัฒนาความรู้ด้านเทคโนโลยีและทักษะอื่น ๆ
วัตถุประสงค์
ส่งมอบโซลูชั่นที่ดีที่สุดแก่อุตสาหกรรมเพื่อความยั่งยืนในอนาคต

วิสัยทัศน์
พันธกิจ
คุณค่าขององค์กร
A – ปลูกฝังการดำเนินธุรกิจต่อเนื่องสร้างความมั่นใจ ซื่อสัตย์
S – สร้างพันธมิตรเชิงกลยุทธ์และพลังร่วม
T – พัฒนาความรู้ด้านเทคโนโลยีและทักษะอื่น ๆ
ความสำเร็จ
SE ให้ความสำคัญในการดำเนินการอย่างยั่งยืนและมั่นคง ใส่ใจสังคมและรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม มีการเปิดเผยข้อมูลในการกำกับดูแลกิจการอย่างโปร่งใส ตรงไปตรงมา รวมไปถึงการพัฒนา สรรหานวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อสร้างมูลค่าให้กับพนักงาน ลูกค้าเพื่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
การกำกับดูแลกิจการที่ดี
SE คำนึงถึงพันธกิจสำคัญในการบริหารจัดการที่ดี โปร่งใส และยังสร้างมูลค่า สรรหาความเป็นเลิศให้อุตสาหกรรมเพื่อผู้มีส่วนได้เสียทุกคน
แจ้งเบาะแสการทุจริต
เพื่อส่งเสริมให้ผู้มีส่วนได้เสียทั้งภายในและภายนอกองค์กร สามารถมีส่วนร่วมในกระบวนการกำกับดูแลกิจการ ดังนั้น ในกรณีที่พนักงานและผู้มีส่วนได้เสียกลุ่มต่าง ๆ มีข้อสงสัย หรือพบเห็นการกระทำที่สงสัยว่ามีการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ จรรยาบรรณ หรือนโยบายการกำกับดูแลกิจการ สามารถสอบถาม แจ้งเบาะแสหรือ ร้องเรียน พร้อมส่งรายละเอียดหลักฐานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดของบุคคลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมายังบริษัท
ร้องเรียนเหตุละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล
พบเห็นการกระทำที่ขัดต่อพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล PDPA (Personal Data Protection Act) ท่านสามารถรายงานการกระทำที่อาจขัดต่อหลักจรรยาบรรณและหลักการกำกับดูแลกิจการ สามารถแจ้งเรื่องผ่านช่องทางที่บริษัทกำหนด
รู้จักกับ SE
2536
ก่อตั้งบริษัท
2558
ISO 9001:2008
2560
แปรสภาพเป็นบริษัทมหาชนและเปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท สยามอีสต์ โซลูชั่น จำกัด (มหาชน)
2561
เข้าซื้อกิจการ บริษัท ยูทิลิตี้ บิสิเนส อัลลายแอนซ์ จำกัด (UBA) โดยมีสัดส่วนร้อยละ 40 ของทุนจดทะเบียน
2564
ก่อตั้งบริษัท โอเคเอส กรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัด (OKS) (บริษัทย่อย) มีสัดส่วนร้อยละ 99.99 ของทุนจดทะเบียน, เพิ่มทุนจดทะเบียนและเข้าซื้อกิจการ บริษัท เคสเซล (ประเทศไทย) จำกัด (KST) (บริษัทย่อย) มีสัดส่วนร้อยละ 92.28 ของทุนจดทะเบียน , ซื้อหุ้นเพิ่มทุน บริษัท ยูทิลิตี้ บิสิเนส อัลลายแอนซ์ จำกัด (UBA) (บริษัทร่วม) ตามสัดส่วนที่ถือครองคิดเป็นร้อยละ 40 ของหุ้นเพิ่มทุน
2565
เพิ่มทุนจดทะเบียน บริษัท โอเคเอส กรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัด (OKS) (บริษัทย่อย) เป็น 10 ล้านบาท. เพื่อเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินในการลงทุน และการ ขยายพัฒนาธุรกิจ, บริษัท ยูทิลิตี้ บิสิเนส อัลลายแอนซ์ จำกัด (UBA) (บริษัทร่วม) แปรสภาพเป็นบริษัทมหาชน
2566
เพิ่มกลุ่มผลิตภัณฑ์สาธารณูปโภคและพลังงาน (UP) มุ่งเน้นพัฒนา นวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน
2567
ย้ายจากหลักทรัพย์ mai เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) เพิ่มโอกาสขยายธุรกิจ เพิ่มมูลค่าสู่ความมั่นคงและยั่งยืน
การเปลี่ยนแปลงและพัฒนาการที่สำคัญ
ประวัติบริษัท
2536
สิงหาคม
บริษัท สยามราชธานี (ตะวันออก) จำกัด จัดตั้งขึ้นด้วยทุนจดทะเบียน 2 ล้านบาท เพื่อจัดหาและจำหน่ายสินค้าอุตสาหกรรมใน 3 กลุ่มผลิตภัณฑ์ ได้แก่ ระบบปั๊ม, การจัดการกระบวนการผลิตและระบบท่อ, และวัสดุนวัตกรรม โดยเน้นกลุ่มลูกค้าในจังหวัดระยองและภาคตะวันออกของประเทศไทย
2544
ตุลาคม
บริษัทฯ เพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 2 ล้านบาท เป็น 5 ล้านบาท เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ
2552
มกราคม
บริษัทฯ เปิดสำนักงานกรุงเทพฯ เพื่อขยายตลาดสินค้าอุตสาหกรรมทั้ง 3 กลุ่มผลิตภัณฑ์ไปยังเขตกรุงเทพฯ ปริมณฑล และจังหวัดอื่น ๆ ทั่วประเทศ รวมถึงโอกาสในการขยายไปยังต่างประเทศ
2558
สิงหาคม
บริษัทฯ ได้รับมาตรฐาน ISO 9001:2008 สำหรับการออกแบบ, จำหน่าย, ประกอบ, ติดตั้ง และบริการหลังการขายสำหรับสินค้าอุตสาหกรรม เช่น ปั๊มสูบส่งน้ำและของเหลว, ระบบท่อ, และวัสดุสิ้นเปลือง
ธันวาคม
บริษัทฯ ได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO 9001:2008 ซึ่งเป็นระบบบริหารงานคุณภาพระดับสากล
2559
มีนาคม
บริษัทฯ แปรสภาพเป็นบริษัทมหาชน และเปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท สยามอีสต์ โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) พร้อมเปลี่ยนมูลค่าที่ตราไว้ของหุ้นสามัญจาก 100.00 บาท เป็น 0.50 บาท และเพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 90 ล้านบาท เป็น 120 ล้านบาท โดยการออกหุ้นสามัญใหม่จำนวน 60,000,000 หุ้น สำหรับเสนอขายแก่ประชาชนทั่วไป (IPO)
2560
กุมภาพันธ์
9 กุมภาพันธ์: บริษัทฯ จดทะเบียนเพิ่มทุนชำระแล้วจาก 90,000,000 บาท เป็น 120,000,000 บาท และเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 60,000,000 หุ้น ในราคาหุ้นละ 2.45 บาท รวมมูลค่า 147,000,000 บาท
14 กุมภาพันธ์: เริ่มการซื้อขายหุ้นเป็นครั้งแรก (First Trading Day)
2561
เปิดใช้อาคารศูนย์บริการวิศวกรรม เพื่อรองรับการขยายงานเข้าซื้อและโอนกิจการ บริษัทยูทิลิตี้ บิสสิเนส อัลลายแอนซ์ จำกัด โดยมีสัดส่วนร้อยละ 40 ของทุนจดทะเบียน ได้รับมาตรฐาน ISO9001:2015 จากทางบริษัท TUV Rheinland รับรองคุณภาพในด้านการจำหน่ายและจัดหา การบริการงานประกอบ งานติดตั้งและงานบริการหลังการขาย สินค้าสำหรับอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น ปั๊ม วาล์ว ท่อและวัสดุสิ้นเปลือง
2562
บริษัทฯ เปิดสำนักงานสงขลา เพื่อขยายฐานลูกค้าสู่ภาคใต้
2564
▪ เพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัท จาก 120 ล้านบาท เป็น จำนวน 312 ล้านบาท
▪ บริษัทฯ ซื้อหุ้น จำนวน 73,826 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 92.28 ของบริษัท เคสเซล (ประเทศไทย) จำกัด
▪ บริษัทฯ ถือหุ้น จำนวน 99,997 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 99.997 ของบริษัท โอเคเอส กรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัด
▪ ซื้อหุ้นเพิ่มทุนเพื่อรักษาสัดส่วนร้อยละ 40 ของผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัท ยูทิลิตี้ บิสิเนส อัลลายแอนซ์ จำกัด จาก 1.6 ล้านหุ้น เพิ่มเป็น 8.6 ล้านหุ้น
▪ ได้รับมาตรฐาน ISO9001:2015 จากทางบริษัท Bureau Veritas รับรองคุณภาพในด้าน Sales & Supply, Design, Assembly, Installation and after sales service for industrial equipment system such as Pumps, Valves, Pipes and Consumable products.
2565
▪ บริษัทฯ จ่ายเงินปันผลประจำปี 2564 ให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 0.50 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 15.60 ล้านบาท โดยจ่ายเงินปันผลในวันที่ 20 พฤษภาคม 2565
▪ บริษัท ยูทิลิตี้ บิสิเนส อัลลายแอนซ์ จำกัด แปรสภาพเป็นบริษัทมหาชน พร้อมทั้งเปลี่ยนชื่อบริษัทใหม่เป็นบริษัท ยูทิลิตี้ บิสิเนส อัลลายแอนซ์ จำกัด (มหาชน) (บริษัทร่วม)
▪ บริษัท ยูทิลิตี้ บิสิเนส อัลลายแอนซ์ จำกัด (มหาชน) (“UBA”) บริษัทร่วม เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายใน MAI ภายใต้กลุ่มบริการ จำนวน 170 ล้านหุ้น ทำให้จำนวนหุ้นจดทะเบียนและจำนวนหุ้นที่ออกและชำระแล้วเพิ่มขึ้น จาก 430.00 ล้านหุ้น เป็น 600.00 ล้านหุ้น ทำให้สัดส่วนการถือหุ้นของบริษัทฯ จากร้อยละ 40 เป็นร้อยละ 28.67
▪ บริษัท โอเคเอส กรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัด (บริษัทย่อย) ได้เพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัท จำนวน 9 ล้านบาท โดยออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 9 แสนหุ้น มูลค่าหุ้นละ 10 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิมจำนวน 1 ล้านบาท เป็น 10 ล้านบาท
2566
▪ บริษัทฯ เพิ่มทุนจดทะเบียน 12,133,120 บาท จากทุนจดทะเบียน 327,594,259.50 บาท เป็น 339,727,380 บาท โดยออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 24,266,241 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 0.50 บาท
▪ บริษัทฯ จ่ายเงินปันผลเป็นหุ้นสามัญให้แก่ผู้ถือหุ้น ในอัตราหุ้นละ 0.50 บาท จำนวน 24,261,814 หุ้น เป็นจำนวน 12.13 ล้านบาท
▪ บริษัทฯ จ่ายเงินปันผลเป็นเงินสดให้แก่ผู้ถือหุ้น ในอัตราหุ้นละ 0.04 บาท จำนวน 655,188,519 หุ้น เป็นจำนวน 26.20 ล้านบาท
▪ บริษัท ยูทิลิตี้ บิสิเนส อัลลายแอนซ์ จำกัด (มหาชน) (UBA) บริษัทร่วมจ่ายเงินปันผล ในอัตราหุ้นละ 0.459 บาท เป็นจำนวน 27.54 ล้านบาท โดยบริษัทฯ บริษัทถือหุ้น UBA จำนวน 171,999,800 หุ้น (28.67%) ได้รับเงินปันผลจำนวน 7.89 ล้านบาท
2567
27 พฤษภาคม 2565 ย้ายจากหลักทรัพย์ mai เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) เพิ่มโอกาสขยายธุรกิจ เพิ่มมูลค่าสู่ความมั่นคงและยั่งยืน
ประวัติความเป็นมา
บริษัท สยามอีสต์ โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) (“บริษัทฯ” หรือ “SE”) (เดิมชื่อ “บริษัท สยามราชธานี (ตะวันออก) จำกัด”) จดทะเบียนก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2536 ด้วยทุนจดทะเบียนเริ่มแรก 2.00 ล้านบาท มีวัตถุประสงค์เพื่อจัดหาและจำหน่ายสินค้าอุตสาหกรรมในกลุ่มผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีระบบปั๊มที่ครอบคลุมทุกลักษณะการใช้งานทั้งน้ำ ของเหลว ของหนืด และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องให้แก่โรงงานอุตสาหกรรมในจังหวัดระยองและจังหวัดใกล้เคียงในภาคตะวันออกของประเทศไทย ด้วยบริษัทฯ สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าและรับรู้ถึงความต้องการสินค้าและบริการอื่นๆ ที่สำคัญในโรงงานอุตสาหกรรม บริษัทฯ จึงเล็งเห็นโอกาสทางธุรกิจโดยเพิ่มการจัดหาและจำหน่ายสินค้าอุตสาหกรรมอีก 2 กลุ่มผลิตภัณฑ์ได้แก่ กลุ่มผลิตภัณฑ์การจัดการกระบวนการผลิตและระบบท่อ และกลุ่มผลิตภัณฑ์วัสดุนวัตกรรม รวมถึงงานบริการต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อรองรับความต้องการที่หลากหลายของโรงงานอุตสาหกรรม
ทั้งนี้ สินค้าอุตสาหกรรมทั้ง 3 กลุ่มผลิตภัณฑ์ยังคงเป็นสินค้าหลักที่บริษัทฯ จัดหาและจำหน่ายมาจนถึงทุกวันนี้ จุดเริ่มต้นของบริษัทฯ เริ่มจากในปี 2527 ได้จดทะเบียนก่อตั้งบริษัท เอ็นจิเนียริ่ง โปรดักส์ จำกัด (“เอ็นจิเนียริ่ง โปรดักส์”) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้บริการด้านวิศวกรรมออกแบบและจำหน่ายระบบปั๊มอุตสาหกรรมและระบบอุปกรณ์วิศวกรรมที่เกี่ยวข้องให้แก่โรงงานอุตสาหกรรม และเนื่องด้วยการเติบโตของเศรษฐกิจส่งผลให้เกิดการลงทุนอย่างมากตามแนวทางของภาครัฐในโครงการอีสเทิร์นซีบอร์ด (Eastern Seaboard) ในภาคตะวันออกของประเทศไทยซึ่งถือเป็นจุดยุทธศาสตร์ของการขนส่งและการลงทุนในภาคอุตสาหกรรม โดยเฉพาะในเขตนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จังหวัดระยอง ทำให้โรงงานอุตสาหกรรมเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างมากในช่วงเวลาที่ผ่านมา ด้วยเหตุนี้ ในปี 2536 ผู้บริหารจึงได้แยกการดำเนินธุรกิจจาก เอ็นจิเนียริ่ง โปรดักส์ และจัดตั้งบริษัท สยามราชธานี (ตะวันออก) จำกัด โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อจัดหาและจำหน่ายสินค้าอุตสาหกรรมในกลุ่มผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีระบบปั๊มที่ครอบคลุมทุกลักษณะการใช้งานทั้งน้ำ ของเหลว ของหนืด และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องให้แก่โรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งมุ่งเน้นกลุ่มลูกค้าหลักที่เป็นโรงงานอุตสาหกรรมที่ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ ในจังหวัดระยองและจังหวัดใกล้เคียงในภาคตะวันออกของประเทศไทย จากการที่บริษัทฯ มีความสัมพันธ์ที่ดีและเข้าถึงกลุ่มลูกค้า ทำให้บริษัทฯ รับรู้ถึงความต้องการในสินค้าและบริการในส่วนอื่นๆ ที่สำคัญในโรงงานอุตสาหกรรม บริษัทฯ จึงเพิ่มการจัดหาและจำหน่ายสินค้าไปยังกลุ่มผลิตภัณฑ์การจัดการกระบวนการผลิตและระบบท่อ และกลุ่มผลิตภัณฑ์วัสดุนวัตกรรม รวมถึงงานบริการต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อรองรับความต้องการที่หลากหลายของโรงงานอุตสาหกรรม
ด้วยวิสัยทัศน์ของกลุ่มผู้บริหารของบริษัทฯ ที่มุ่งขยายการจัดหาและจำหน่ายสินค้าอุตสาหกรรมและการบริการให้ครอบคลุมกลุ่มลูกค้าในทุกอุตสาหกรรมทั่วประเทศ ในปี 2552 บริษัทฯ ได้เปิดสำนักงานกรุงเทพฯ และเพิ่มทีมงานวิศวกรฝ่ายขาย เพื่อนำเสนอและจำหน่ายสินค้าอุตสาหกรรมทั้ง 3 กลุ่มผลิตภัณฑ์ได้แก่ กลุ่มผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีระบบปั๊ม กลุ่มผลิตภัณฑ์การจัดการกระบวนการผลิตและระบบท่อ และกลุ่มผลิตภัณฑ์วัสดุนวัตกรรม โดยมุ่งเน้นขยายกลุ่มลูกค้าให้ครอบคลุมในเขตกรุงเทพฯ ปริมณฑล และภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศไทย รวมถึงโอกาสในการจำหน่ายสินค้าอุตสาหกรรมไปยังลูกค้าในต่างประเทศ
ทั้งนี้ บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจภายใต้แนวคิด Industrial Equipment Solution Provider กล่าวคือ บริษัทฯ เป็นผู้จัดหาและจำหน่ายสินค้าอุตสาหกรรมอย่างครบวงจร ตั้งแต่การคัดสรรสินค้าคุณภาพ นำเสนอทางเลือกและนวัตกรรมใหม่ บริการด้วยความจริงใจ เพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้า รวมถึงการให้บริการด้านวิศวกรรมที่เกี่ยวข้องกับสินค้าอุตสาหกรรม การให้บริการหลังการขาย และการให้บริการซ่อมบำรุง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและเพิ่มอายุการใช้งานของสินค้าให้มากยิ่งขึ้น เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2559 บริษัทฯ ได้แปรสภาพเป็นบริษัทมหาชน พร้อมทั้งเปลี่ยนชื่อบริษัทใหม่เป็นบริษัท สยามอีสต์ โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) มีทุนจดทะเบียนจำนวน 120,000,000 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญจำนวน 240,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท และทุนที่ชำระแล้วจำนวน 90,000,000 บาท สำหรับหุ้นสามัญที่เหลืออีกจำนวน 60,000,000 หุ้น บริษัทฯ ออกไว้เพื่อรองรับการเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (Initial Public Offering: IPO) เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2560 บริษัทฯ ได้ดำเนินการจดทะเบียนเพิ่มทุนชำระแล้วของบริษัทจากเดิม 90,000,000 บาท เป็น 120,000,000 บาท บริษัทฯได้จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท จำนวน 60,000,000 หุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 9.50 บาท เพื่อเสนอขายให้แก่ประชาชนทั่วไป (Initial Public Offering) ในราคาใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญหุ้นละ 2.45 บาท คิดเป็นจำนวนเงิน 147,000,000 บาท และเริ่มการดำเนินการซื้อขายเป็นครั้งแรก (First Trading Day) ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2560
ปัจจุบัน บริษัทฯ มีทุนจดทะเบียนจำนวน 339,725,166.50 บาท ทุนชำระแล้วเป็นเงิน 339,725,166.50 บาท แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญ 679,450,333 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท เป็นบริษัทฯ จัดหาและจำหน่ายสินค้าอุตสาหกรรมและให้บริการต่างๆ เกี่ยวข้องแก่โรงงานอุตสาหกรรม แบ่งเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ 5 กลุ่มผลิตภัณฑ์ ได้แก่ กลุ่มเทคโนโลยีระบบปั๊ม (Pumping System Technology Division) กลุ่มการจัดการกระบวนการผลิตและระบบท่อ (Process and Piping Solution Division) กลุ่มวัสดุนวัตกรรม (Innovative Material Division) กลุ่มธุรกิจงานบริการ (Service Business) และกลุ่มสาธารณูปโภคและพลังงาน (Utilities & Power) มีบริษัทร่วมทุนและบริษัทลูกรวมทั้งหมด 4 บริษัท 1. OKS บริษัท โอเคเอสกรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัด ก่อตั้งขึ้นเพื่อการลงทุนและถือหุ้นในบริษัทอื่นๆ เป็นหลัก โดยสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้บริษัทในเครือและค้นหาธุรกิจใหม่ๆ ที่มีแนวโน้มเติบโต 2. Kessel บริษัท เคสเซล (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิต จัดจำหน่าย และให้บริการติดตั้งท่อ วาล์ว หรืออุปกรณ์อื่นๆ ที่มีคุณสมบัติพิเศษ และเป็นตัวแทนจำหน่ายรายเดียวในประเทศไทย 3. UBA บริษัทยูทิลิตี้ บิสิเนส อัลลายแอนซ์ จำกัด (มหาชน) ผู้นำนวัตกรรมด้านการให้บริการ จัดการน้ำ และสิ่งแวดล้อมแบบครบวงจรอันดับต้นๆ ของประเทศไทย 4. Lumi Solar บริษัท ลูมิ โซลาร์ จำกัด ผู้ลงทุนเพื่อพัฒนาโครงการโซลาร์ฟาร์ม
ซึ่งการดำเนินธุรกิจของ 4 บริษัทเป็นไปตามวิสัยทัศน์ ที่มุ่งเน้นสรรหาความเป็นเลิศให้อุตสาหกรรมเพื่อผู้มีส่วนได้เสียทุกคน) โดยมีพันธกิจในการคัดสรรสินค้าและบริการที่มีประสิทธิภาพและรวดเร็ว สร้างโอกาสให้เกิดการลงทุนและเพิ่มมูลค่าให้กับผู้ถือหุ้น ลูกค้าและพนักงาน ภายใต้คุณค่าขององค์กรที่เรียกว่า “FAST” ซึ่งหมายถึง F – การบริการและจัดหาสินค้าที่ดีและรวดเร็ว A – ปลูกฝังการดำเนินธุรกิจต่อเนื่องสร้างความมั่นใจ ซื่อสัตย์ S – สร้างพันธมิตรเชิงกลยุทธ์และพลังร่วม T – พัฒนาความรู้ด้านเทคโนโลยีและทักษะอื่น ๆ
ในด้านการขยายธุรกิจ บริษัทฯ ให้ความสำคัญและมุ่งมั่นในการสร้างระบบจัดหาและบริหารจัดการสินค้าที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างครบวงจร (Integrated Supply) รวมถึงการให้บริการบริหารสต็อกสินค้าและจัดส่งตามความต้องการเฉพาะของลูกค้า (Customer Managed Inventory) และการบริหารจัดการสต็อกแทนลูกค้า (Vendor Managed Inventory) ผ่านรูปแบบการฝากขาย (Consignment Stock) ซึ่งช่วยลดภาระของลูกค้าและเพิ่มความยืดหยุ่นในการจัดส่ง
นอกจากนี้ บริษัทยังเน้นการให้บริการสัญญาบำรุงรักษาเชิงป้องกัน (Preventive Maintenance Contract) และการปรับปรุงประสิทธิภาพพลังงาน (Energy Optimization) โดยนำนวัตกรรมต่าง ๆ เช่น Insulation, Internet of Things (IoT) และเทคโนโลยีใหม่ ๆ ของคู่ค้ามาใช้ เพื่อยกระดับการดำเนินธุรกิจให้มีประสิทธิภาพและยั่งยืนในระยะยาว
ลักษณะการประกอบธุรกิจ
บริษัท สยามอีสต์ โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ “SE” บริษัทจัดหาและจำหน่ายสินค้าอุตสาหกรรมและให้บริการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องแก่โรงงานอุตสาหกรรมซึ่งปัจจุบันแบ่งเป็น 5 กลุ่มผลิตภัณฑ์ ได้แก่
- กลุ่มผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีระบบปั๊ม
(Pumping System Technology Division) - กลุ่มผลิตภัณฑ์การจัดการ กระบวนการผลิตและระบบท่อ
(Process and Piping Solution Division) - กลุ่มผลิตภัณฑ์วัสดุนวัตกรรม
(Innovative Material Division) - กลุ่มผลิตภัณฑ์ธุรกิจงานบริการ
(Service Business Division) - และกลุ่มสาธารณูปโภคและพลังงาน
(Utilities & Power Division)
โดยจะทำธุรกิจตามวิสัยทัศน์ กับ ค่านิยม และให้ความสำคัญในขยายธุรกิจด้าน การบริหารจัดการหรือการยื่นราคากับลูกค้า, บริหารจัดการสินค้าคงคลังของลูกค้า หรือการเก็บสต็อกสินค้าให้กับทางลูกค้า และส่งสินค้าตามความต้องการองลูกค้า, ผู้บริหารสินค้าคงคลัง หรือ การบริหารสินค้าคงคลัง นั่นเอง
นอกจากนี้ทางบริษัทยังเน้น สัญญาการบำรุงรักษาเชิงป้องกัน กับ การเพิ่มประสิทธิภาพพลังงาน โดยใช้ฉนวนกันความร้อน , เครือข่ายอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกัน(IoT), เทคโนโลยีใหม่ๆ ของทางผู้จัดหา
บริษัทฯ มีบริษัทร่วมและบริษัทย่อย ทั้งหมด 4 บริษัท ดังนี้ :
1. OKS Group Holding Company Limited
ถูกก่อตั้งขึ้นเพื่อการลงทุน โดยถือหุ้นในบริษัทอื่น ๆ เป็นหลัก และสามารถช่วยให้บริษัทในกลุ่มต่าง ๆ สามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานหรือธุรกิจใหม่ได้
2. Kessel (Thailand) Company Limited
เป็นผู้ผลิต จัดจำหน่ายและให้บริการติดตั้ง ท่อ วาล์ว หรือ อุปกรณ์อื่นๆ ที่มีคุณสมบัติพิเศษ ทนทานต่อการกัดกร่อนของสารเคมีและความร้อน ให้กับโรงงานอุตสาหกรรม
ผลิตภัณฑ์ประเภทท่อของ เคสเซล จัดจำหน่ายโดยอยู่ภายใต้เครื่องหมายการค้า Resistoflex ที่ถือสิทธิบัตรโดยกลุ่ม Crane Co. ซึ่งอยู่ในตลาด NYSE ของสหรัฐอเมริกา
ทั้งนี้เคสเซล (ประเทศไทย) เป็นผู้ผลิต และตัวแทนจําหน่ายเพียงผู้เดียวในประเทศไทย นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มผลิตภัณฑ์วาล์ว ภายใต้เครื่องหมายการค้า XOMOX และมีอุปกรณ์อื่นของ DE DIETRICH Glass Lining อีกด้วย
3. Utility Business Alliance Public Company Limited
เป็นบริษัทอันดับต้น ๆ ของประเทศไทยที่ทำธุกิจบริหารจัดการน้ำและสิ่งแวดล้อม โดยเน้นกลุ่มลูกค้าภาครัฐถึง 85% และเอกชนอีก 15% ทั้งนี้ UBA สามารถช่วย SE ขยายฐานลูกค้าด้านภาครัฐได้มากขึ้น ในปัจจุปัน UBA บำบัด น้ำเสียวันละมากกว่า 600,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน
4. บริษัท ลูมิ โซลาร์ จำกัด
เป็นผู้ลงทุนเพื่อพัฒนาโครงการโซลาร์ฟาร์ม
โครงสร้างการถือหุ้นของกลุ่มบริษัท




กลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจ
- 1. สร้างความเติบโตรายได้ และความสามารถในการแข่งขันของทั้ง 5 กลุ่มผลิตภัณฑ์ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับภาคอุตสาหกรรม
- 2. เน้นสร้างโอกาสและความสามารถในการแข่งขัน งานโครงการขนาดใหญ่ เพื่อรองรับการลงทุนใหม่ๆ ของลูกค้าและสร้างรายได้มูลค่าสูงให้กับบริษัทฯ ได้เป็นอย่างดี
- 3. สร้างเครือข่าย ทั้งในรูปแบบของสำนักงานขายหรือคู่ค้า เพื่อช่วยกระจายและขยายฐานลูกค้าไปยังภูมิภาคต่างๆ ทั่วไทย
- 4. พัฒนาระบบงานไอที สู่ระบบระบบการวางแผนทรัพยากรในองค์กรเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันและรองรับการขยายตัวในอนาคต
- 5. พัฒนาระบบงานภายใน พัฒนาบุคลากรโดยมีการทำ แผนผู้สืบทอดตำแหน่ง และเสริมความรู้ให้กับทุกคนในองค์กร
- 6. หาสินค้าและคู่ค้าใหม่ๆ เพิ่มเติมเพื่อเพิ่มโอกาสในการขาย ขยายฐานลูกค้าให้กว้างและหลากหลาย
- 7. ปรับโมเดลธุรกิจ ขยายการลงทุนรูปแบบใหม่ เช่น การควบรวมกิจการเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันทำให้บริษัทฯ เติบโต ทั้งด้านยอดขายและกำไรอย่างยั่งยืน