หลาย ๆ คนคงจะกำลังให้ความสนใจกับระบบโซลาร์ เซลล์ เพื่อลดค่าไฟที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรม ที่มีการใช้ไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง 24 ชม. เลยทีเดียว ยิ่งใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้ามากเท่าไหร่ค่าไฟก็ยิ่งขึ้นสูงตาม หากมีทางเลือกในการลดต้นทุนค่าไฟฟ้าให้กับธุรกิจตัวเองหรือแม้กระทั่งภาคครัวเรือนได้ก็คงดีไม่น้อย SE เราจึงข้อเสนอ โซลาร์ เซลล์ ที่คุ้มค่าแก่การลงทุนในระยะยาว แต่ก่อนที่เราจะตัดสินใจลงทุนมารู้เรื่องอุปกรณ์ระบบโซลาร์ เซลล์กันก่อนดีกว่า

1. แผงโซลาร์ เซลล์
ตามชื่อระบบ โซลาร์ เซลล์ ก็ขาดไม่ได้ที่จะต้องมี แผงโซลาร์ เซลล์ เป็นอุปกรณ์ที่ขาดไม่ได้เลยในการใช้งาน เพราะแผงโซลาร์นี่จะส่งผลต่อการผลิตไฟฟ้าและขึ้นอยู่กับประเภทของแผง ขนาด รวมไปถึงงบประมาณที่เราโอเค โดยปกติอุปกรณ์จำพวกนี้จะมีอายุการใช้งานอยู่ที่ประมาณ 20 ปี ขึ้นอยู่กับการบำรุงรักษา

ชนิดของแผงโซลาร์
แผงโซลาร์ที่ใช้กันในปัจจุบัน จะมีอยู่ 2 ชนิดหลัก ๆ คือ แบบโมโนคริสตัลไลน์ และ แบบโพลีคริสตัลไลน์ ซึ่งคุณภาพของแผงทั้ง 2 นี้ไม่ค่อยแตกต่างกันเท่าไหร่จะต่างกันที่ขนาด ส่วนการเลือกใช้งานขึ้นอยู่กับพื้นที่ที่จะติดตั้งกับราคาที่เราสามารถจ่ายได้ นอกจากนี้ยังมีสิ่งที่ต้องคำนึงถึงอยู่คือการเผื่อขนาดของแผงโซลาร์ เซลล์ให้มีกำลังในการผลิตไฟฟ้าที่เราใช้อีกด้วย ส่วนใหญ่อายุการใช้งานของอุปกรณ์พวกนี้จะอยู่ที่ประมาณ 20 ปี แต่ปกติเมื่อใช้งานผ่านไปแล้ว 7 – 10 ปี ประสิทธิภาพในการผลิตไฟจะลดลงเรื่อย ๆ ดังนั้นเราควรดูแลรักษาตามรูปแบบที่ได้ติดตั้ง เช่น Off Gird , On Grid และ Hybrid

2. เครื่องคุมการชาร์จไฟ
เป็นอุปกรณ์ที่มีความสำคัญในการชาร์จไฟได้จากแผงสู่แบตเตอร์รี่ ควรสอบถามทางผู้ให้บริการให้ดีว่าใช้แบบใด รุ่นไหนที่เหมาะสมกับระบบที่ติดตั้งไป

3. แบตเตอร์รี่
ในกรณีที่ติดตั้งแบบ Off Grid และ Hybrid มีความจำเป็นที่จะต้องใช้แบตเตอร์รี่ในการเก็บไฟที่ผลิตได้จากแผงโซลาร์เซลล์ โดยหลักแล้วในการเลือกขนาดของแบตเตอร์รี่ควรเลือกที่มีความจุแอมป์ที่มากพอต่อการเก็บไฟที่ได้จากแผงโซลาร์ ยิ่งแบตเตอร์รี่มีขนาดใหญ่ก็จะยิ่งเก็บไฟได้เยอะมากขึ้น แต่ตัวแบตเตอร์รี่เองมีหน้าที่แค่เก็บไฟที่ผลิตได้เท่านนั้น ไม่ได้มีหน้าที่ผลิตไฟฟ้าแต่อย่างใด และหากขนาดแผงโซลาร์เซลล์มีขนาดเล็กมากกว่าแบตเตอร์รี่ก็ไม่สามารถเก็บไฟได้มากขึ้น ดังนั้นหากต้องการผลิตไฟที่ได้มากขึ้นกว่าเดิม ควรมโฟกัสไปที่ขนาดของแผงโซลาร์มากกว่าขนาดของแบตเตอร์รี่

4. เครื่องแปลงไฟ (Inverter)
อีก 1 ชิ้นที่ขาดไม่ได้สำหรับการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์คือเครื่องแปลงไฟหรือที่เรียกว่า Inverter มีหน้าที่ในการแปลงไฟที่ผลิตจากแผงโซลาร์ซึ่งเป็นไฟกระแสตรง ให้เป็นกระไฟสลับ เพื่อนำมาใช้งานกับเครื่องใช้ไฟฟ้า ควรดูว่าตัวเครื่องแปลงไฟตัวนี้ควรใช้แบบที่เหมาะกับการติดตั้งโซลาร์ของเรา สามารถปรึกษาผู้ให้บริการกเพื่อความมั่นใจ

เครื่องแปลงไฟ ปัจจุบันที่ใช้งานกันในปัจุบันมีอยู่ 3 ประเภท เหมือนกันกับการติดตั้งทั้ง 3 แบบ คือ
1) Off Grid inverter
คือเครื่องแปลงไฟจาก DC เป็น 220v AC ซึ่งสามารถนำไปใช้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ ได้เช่น แอร์ พัดลม คอมพิวเตอร์ ข้อดีคือเครื่องแปลงไฟประเภทนี้มีราคาถูก หาซื้อง่าย ใช้งานกลางคืนได้เพราะต่อมาจากแบตเตอร์รี่
2) On Grid Inverter
คือตัวแปลงไฟที่สามารถนำไปต่อร่วมกับไฟที่จ่ายปกติโดยไม่ต้องแยกโหลดเครื่องใช้ไฟฟ้า มีการประมวลผลเช็คสัญญาณ ข้อดีคือประหยัดไฟมากกว่าเดิม ไม่ต้องติดตั้งแบตเตอร์รี่เพื่อใช้งาน เพราะเมื่อต่อร่วมกับไฟบ้านแล้ว จะทำให้มิเตอร์ไฟหมุนช้า เหมาะสำหรับการใช้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิดและช่วงเวลากลางวันที่มีการใช้ไฟสูง
3) Hybrid Inverter
คือเป็นเครื่องแปลงที่ผสานระหว่าง On Grid และ Off Grid ที่จะทำให้ใช้งานได้ทั้งกลางวันและกลางคืน สามารถเลือกการใช้งานกับอุปกรณ์ไฟฟ้าได้ภายในที่พักหรือสำนักงานหากต้องใช้ หากเมื่อไหร่ที่ใช้ไฟจากแบตเตอร์รี่แล้วไฟไม่พอหรือไฟหมดไปจากแบตเตอร์รี่แล้ว สามารถสลับมาใช้ไฟจากมิเตอร์ไฟฟ้าได้ปกติ และสามารถตั้งค่าไม่ให้มิเตอร์ไฟฟ้าหมุนย้อนกลับจึงไม่มีปัญหากับการไฟฟ้า

อุปกรณ์ที่กล่าวมาข้างต้นนี้ หากเลือกซื้อได้อย่างเหมาะสมกับการใช้งานก็จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาวได้พอสมควร นอกจากจะช่วยลดค่าใช้จ่ายของเราแล้วยังช่วยลดโลกได้อีกทาง หากคุณกำลังหาโซลูชั่นในการประหยัดไฟเพื่อลดค่าใช้จ่าย โซลาร์ เซลล์ เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดูจะคุ้มค่ากับการลงทุนและเหมาะกับการใช้งาน